มะเขือพวง มะเขือขมขื่น
เฝื่อน แต่มากด้วยสรรพคุณด้านยา
|
|
เรื่องและเรียบเรียงโดย ตุ๊แสนฤทธิ์ |
|
|
|
|
มะเขือพวงเป็นไม้พุ่มเตี้ย สูงประมาณ 1 - 2 เมตร ใบแน่น ทรงพุ่มไม่มีรูปแบบที่แน่นนอน ลำต้นตั้งตรงและแข็งแรง ลำต้นมีขนนุ่มขึ้นปกคลุม ลำต้นและใบมีหนามเล็กๆ ขึ้นโดยทั่วไป ดอกมีทั้งสีขาวและสีม่วงขึ้นอยู่กับชนิดของพันธุ์ ผลมีสีเขียวเป็นลูกทรงกลมขนาดเล็ก เมือสุกแก่จะเปลี่ยนเป็นสีส้ม เป็นพืชที่ทนแล้ง ปลูกได้ทั้งปี แต่จะให้ผลดกในช่วงฤดูฝน |
|
|
|
มะเขื่อพวง มีชื่อเรียกอยู่หลายชื่อ ทางภาคเหนื่อเรียกว่า มะแคว้ง ภาคอีสานเรียก หมากแข้ง ส่วนภาคใต้เรียก เขือน้อย เขือพวง ลูกแว้ง เขือเทศ เป็นพืชยืนต้น สามารถปลูกแล้วเก็บกินได้ทั้งปี ไม่ใช่พืชล้มลุกเหมือนมะเขือชนิดอื่นๆ เป็นวัชพืชที่ขึ้นได้โดยทั่วไปในเขตร้อน มีถิ่นกำเนิดเดิมอยู่ที่เขตฟลอริดา หมู่เกาะเวสต์ อินดีส์ เม็กซิโก จนถึงอเมริกากลาง และทวีปอเมริกาใต้แถบประเทศบราซิล แต่เป็นพืชเพาะปลูกเป็นอาหารในแถบเอเชียใต้ เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และเอเชียตะวันออก |
|
|
|
|
ลักษณะทางพฤษศาสตร์ ของมะเขือพวง |
|
มะเขือพวงเป็นไม้พุ่มเตี้ย สูงประมาณ 1 - 2 เมตร ใบแน่น ทรงพุ่มไม่มีรูปแบบที่แน่นนอน ลำต้นตั้งตรงและแข็งแรง ลำต้นมีขนนุ่มขึ้นปกคลุม ลำต้นและใบมีหนามเล็กๆ ขึ้นโดยทั่วไป ดอกมีทั้งสีขาวและสีม่วงขึ้นอยู่กับชนิดของพันธุ์ ผลมีสีเขียวเป็นลูกทรงกลมขนาดเล็ก เมือสุกแก่จะเปลี่ยนเป็นสีส้ม เป็นพืชที่ทนแล้ง ปลูกได้ทั้งปี แต่จะให้ผลดกในช่วงฤดูฝน เป็นพืชที่ปลูกง่ายโตเร็วไม่มีปัญหาเรื่องโรคพืชและแมลงศัตรูพืช เมื่อนำมาบริโภคจึงมั่นใจได้ว่าปลอดภัยจากสารเคมีทางเกษตรแน่นอน |
|
|
|
|
|
ประโยชน์และสรรพคุณทางยาสมุนไพร ของมะเขือพวง |
|
คนไทยเรารู้จักและกินมะเขือพวงมานานแล้ว มะเขือพวงทำให้กลิ่นรสของเครื่องจิ้มต่างๆ มีความพิเศษออกไปจากปกติ เรากินผลอ่อนมะเขือพวงโดยนำไปโขลกกับน้ำพริกปลาทู น้ำพริกแมงดา น้ำพริกกะปิ น้ำพริกขี้กา น้ำพริกกุ้งสด น้ำพริกหอยแมลงภู่ น้ำพริกไข่เค็ม และปลาร้าทรงเครื่อง หากใช้เป็นผักจิ้มนิยมทำให้สุกโดยการเผา ปิ้ง หรือย่าง พอให้ผิวกรอบหรือไหม้บางส่วน จะทำให้รสชาติดีขึ้น และผลนิ่มกว่าเมื่อยังดิบ หรืออาจนำไปลวกหรือต้มให้สุกก็ได้ นอกจากนี้ ยังใช้มะเขือพวงใส่แกงเขียวหวาน แกงป่า แกงคั่วปลาไหล แกงอ่อมปลาดุก ซุปอีสาน และแกงเผ็ดอื่นๆ |
|
|
|
|
|
ในผลของมะเขือพวงมีสารทอร์โวไซด์ เอ, เอช (torvoside A, H) เป็นสตีรอยด์ไกลไซด์มีฤทธิ์ยับยั้งไวรัสมากกว่ายาอะไซโคลเวียร์ถึง ๓ เท่า สารทอร์โวนิน บี (torvonin B) เป็นซาโพนินชนิดหนึ่ง เชื่อกันว่าทำให้มะเขือพวงมีฤทธิ์ขับเสมหะ สารโซลานีน (solanine) เป็นอัลคาลอยด์จากพืชตระกูลมะเขือ สารนี้เป็นสารที่ทำให้เกิดความไม่สมดุลของแคลเซียมในร่างกาย ผู้ป่วยโรคไขข้อจึงไม่ควรกินพืชตระกูลมะเขือ นอกจากนี้มะเขือพวงยังมีสารเส้นใยอยู่สูงมาก มากกว่ามะเขือยาวถึง 3 เท่าและมากกว่ามะเขือเปราะถึง 65 เท่า สารเส้นใยนี้มีชื่อเรียกว่า เพกทิน เป็นสารที่ละลายน้ำได้ สารนี้จะเปลี่ยนเป็นวุ้นเคลือบบริเวณลำไส้ ทำให้ลำไส้ดูดซึมแป้งและน้ำตาลได้ช้าลง จึงช่วยให้ระดับน้ำตาลในเลือดไม่เพิ่มขึ้นสูงเร็วจนเกินไป ทำให้สามารถควบคุมระดับน้ำตาลในผู้ป่วยที่เป็นโรคเบาหวานได้ดี ปัจจุบันมีการสกัดสารเพกทินนี้ไปชงเป็นชาดืมเพื่อควบคุมระดับน้ำตาลแล้ว |
|
|
|
|
|
มะเขือพวงเป็นพืชที่ช่วยเสริมสุขภาพ โดยมีสรรพคุณตามตำราแพทย์แผนไทยคือ ช่วยเจริญอาหาร ย่อยอาหาร ช่วยระบบขับถ่าย บำรุงธาตุ ขับเสมหะ แก้ไอ ช่วยให้โลหิตหมุนเวียนดี แก้ฟกช้ำ ไอเป็นเลือด ฝีบวมมีหนอง ข้อมูลทางวิทยาศาสตร์ได้แสดงคุณสมบัติที่เด่นชัดของมะเขือพวงในการเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกันของลำไส้เพื่อตอบสนองต่อสารพิษที่เข้ามายังระบบทางเดินอาหาร มีฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระ ช่วยป้องกันความเสื่อมและแก่ก่อนวัย มีฤทธิ์ช่วยควบคุมระดับน้ำตาลในโรคเบาหวาน อีกทั้งยังมีสารอาหารที่จำเป็นต่อร่างกายหลายชนิด |
|
|
|
|
มะเขือพวงมีประโยชน์แทบทุกส่วน ใช้น้ำสกัดจากต้นมะเขือพวงแก้พิษแมลงกัดต่อย น้ำคั้นใบสดใช้ลดไข้ ใช้เป็นยาระงับประสาท พอกให้ฝีหนองแตกเร็วขึ้น แก้ปวด ทำให้ฝียุบ แก้ชัก ไอหืด ปวดข้อ โรคผิวหนัง ขับปัสสาวะ ขับเหงื่อ และแก้ซิฟิลิส ผลของมะเขือพวงมีรสขื่น เฝื่อน อมเปรี้ยวเล็กน้อย นำผลมาต้มน้ำกรองน้ำดื่ม มีสรรพคุณในการขับเสมหะ ช่วยระบบย่อยอาหาร รักษาอาการเบาหวาน เมล็ดนำไปเผาให้เกิดควัน สูดเอาควันรมแก้ปวดฟัน รากสดใช้ตำพอกรอยแตกที่เท้า หรือโรคตาปลา |
|
นอกจากนี้ยังมีงานวิจัยจากในและต่างประเทศพบว่ามะเขือพวง เมื่อนำมาสกัดด้วยแอลกอฮอล์ พบว่ามีสารโพลีฟีนอลสูง เป็นสารสกัดยับยั้งการทำงานของเอนไซม์ไซโตโครมพี 450 2E1 ในไมโครโซมของตับ มีฤทธิ์ขจัดอนุมูลอิสระ สารโยฮิมบีนและอะโทรพีน ซึ่งช่วยยับยั้งผลการลดอัตราการเต้นหัวใจและยับยั้งการรวมตัวของเกล็ดเลือด มีประโยชน์สำหรับผู้ป่วยความดันโลหิตสูงและผู้ป่วยที่มีปัญหาเรื่องการรวมตัวของเกล็ดเลือด |
|
|
คุณค่าทางอาหาร ของมะเขือพวง |
|
เมื่อรับประทานมะเขือพวง 100 กรัม จะให้สารอาหารมากมายต่อร่างกายดังนี้ พลังงาน ๒๔ กิโลแคลอรี คาร์โบไฮเดรต ๕.๗ กรัม น้ำตาล ๒.๓๕ กรัม เส้นใยอาหาร ๓.๔ กรัม ไขมัน ๐.๑๙ กรัม โปรตีน ๑.๐๑ กรัม ไทอะมีน (วิตามีนบี ๑) ๐.๐๓๙ มิลลิกรัม ไรโบฟลาวิน (วิตามินบี ๒) ๐.๐๓๗ มิลลิกรัม ไนอะซิน (วิตามินบี ๓) ๐.๖๔๙ มิลลิกรัม กรดแพนโทเทนิก (วิตามินบี ๕) ๐.๒๘๑ มิลลิกรัม วิตามินบี ๖ ๐.๐๘๔ มิลลิกรัม โฟเลต (วิตามินบี ๙) ๒๒ ไมโครกรัม วิตามินซี ๒.๒ มิลลิกรัม แคลเซียม ๙ มิลลิกรัม เหล็ก ๐.๒๔ มิลลิกรัม แมกนีเซียม ๑๔ มิลลิกรัม ฟอสฟอรัส ๒๕ มิลลิกรัม โพแทสเซียม ๒๓๐ มิลลิกรัม สังกะสี ๐.๑๖ มิลลิกรัม แมงกานีส ๐.๒๕ มิลลิกรัม |
|
|
|
|
|
|
มะเขือพวง ที่ไร่พอใจ เกษตรอินทรีย์ |
|
ที่ไร่พอใจ เกษตรอินทรีย์ ต้นมะเขือพวงเราแทบไม่จำเป็นต้องปลูก ส่วนใหญ่จะขึ้นมาเอง ไม่ต้องรดน้ำ ไม่ต้องใส่ปุ๋ย ทนต่อโรคและแมลงศัตรูพืช ปลอดภัยจากสารพิษแน่นอน จะเห็นว่ามะเขือพวงถึงแม้จะมีผลขนาดน้อยนิด มีรสขมขื่น กลับเป็นพืชที่มีคุณค่าทั้งทางโภชนาการ สรรพคุณทางยา และสมุนไพรมากมายเกินขนาดจริงๆ ใครที่เคยเขี่ยมะเขือพวงออกจากอาหารควรเปลี่ยนใจหันมากินมะเขือพวงกันได้แล้ว |
|
|
|
รวมรูปภาพของมะเขือพวง ที่ไร่พอใจ เกษตรอินทรีย์ |
|
|
|
|
|
|
|
ความสำคัญของเกษตรอินทรีย์ |
|
|
แนวความคิด ของการทำเกษตรอินทรีย์ แบบยั่งยืน |
|
แล้วคำว่า "เกษตรอินทรีย์" มันคือการเกษตรอะไรกันแน่.... |
|
ความสำคัญเกี่ยวกับ การทำเกษตรที่เป็นเกษตรอินทรีย์ 100 เปอร์เซนต์ |
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|