หญ้าไม่ใช้ปัญหาวัชพืชการเกษตร
หญ้าคือสิ่งดีๆ ที่ธรรมชาติประทานให้ |
|
เรื่องและเรียบเรียงโดย ตุ๊แสนฤทธิ์ |
|
|
|
|
เกษตรกรส่วนมากมองเห็นหญ้าเป็นวัชพืชที่มีปัญหาสูงสุดในการทำการเกษตร ซึ่งมันก็เป็นความจริงเพียงส่วนหนึ่ง หากลองพิจารณาดูให้ดีและถี่ถ้วน จะเห็นว่าหญ้าไม่ใช้ศัตรูวัชพืชสำหรับแปลงเกษตร 100% เต็ม หญ้ายังมีประโยชน์อีกหลายอย่าง เกษตรกรต้องพิจารณาให้ดี ก่อนที่จะมักง่ายเพียงเอาสารเคมีกำจัดวัชพืชไปฉีดพ่น ซึ่งทำให้ก่อเกิดพิษภัยต่อสรรพสิ่งมีชีวิตและสภาพแวดล้อม จนเป็นผลให้ความสมดุลย์ในธรรมชาติถูกทำลายไป |
|
|
|
วัชพืชในการเกษตร หมายถึงพืชทุกชนิดที่เจริญเติบโตขึ้นมา แล้วคอยเบียดบัง แย่งอาหารจากพืชประธานในแปลงเกษตรของเกษตรกร ดังนั้นข้าวอาจจะเป็นวัชพืชในแปลงข้าวโพด ข้าวโพดก็เป็นวัชพืชในแปลงถั่วเขียว ผักบุ้งเป็นวัชพืชในแปลงนา แต่อันที่จริงแล้วตัวเกษตรกรส่วนใหญ่มักจะเข้าใจว่า ต้นหญ้าทุกชนิดนั้นแหละคือวัชพืช เพราะหญ้าเป็นพืชที่โตเร็ว ไม่ต้องการการดูแลเอาใจใส่ แย่งอาหารเก่ง และมักจะเป็นพืชที่ชนะเสมอเมื่อเริ่มนับหนึ่งแข่งขันกันเจริญเติบโตจากเมล็ดกับพืชประธานทุกชนิดในแปลงเกษตร
|
|
|
|
|
|
หญ้าทุกชนิด เป็นปุ๋ยพืชสดอย่างดีในแปลงเกษตร |
พืชตระกูลหญ้าทุกชนิด เป็นพืชที่เจริญเติบโตได้อย่างรวดเร็ว ไม่ต้องการการดูแลเอาใจใส่ นั่นแสดงให้เห็นว่าหญ้ามีความสามารถในการดูดซึมอาหาร และเก็บตุนอาหารไว้เลี้ยงตัวเองได้อย่างดีเยี่ยม หากสังเกตุให้ดีในบรรดาพืชตระกูลหญ้าด้วยกัน ก็ยังมีหญ้าที่เก่ง เป็นสุดยอดของพืชพันธุ์ที่สามารถเจริญเติบโตได้อย่างรวดเร็ว จนหญ้าชนิดอื่นๆ ต้องยอมหลีกทางให้ เช่น หญ้าขน ผักตบชวา ต้นกระถิน ต้นไผ่ หญ้าเนเปียร์ ฯลฯ
|
|
|
|
|
|
ในแปลงนาที่ไร่พอใจ เกษตรอินทรีย์ ตามธรรมชาติ เราจะปล่อยให้ต้นหญ้าแข่งขันกันเจริญเติบโต หญ้าทุกชนิดรวมทั้งต้นข้าวที่งอกจากข้าวหล่นหรือตอซัง ต่างแข่งขันกันยืดลำต้นให้สูงที่สุดเพื่อแย่งแสงแดด ต่างพยายามแย่งดูดสารอาหารในดินมาสะสมที่ลำต้นและใบ มองดูเขียวขจีไปทั่วทุ่ง เมื่อถึงช่วงเวลาหนึ่งที่ต้นหญ้าสะสมสารอาหารได้เต็มที่ พร้อมที่จะเตรียมออกดอกออกผล เพื่อขยายพันธุ์ ถือว่าเป็นช่วงที่หญ้าได้เก็บกักปุ๋ยตามธรรมชาติไว้ได้มากที่สุด ที่ไร่พอใจเราก็จะเริ่มตัดหญ้าในแปลงให้สั้นลง เพื่อให้หญ้าเจริญเติบโตขึ้นใหม่ เศษซากหญ้าที่ตัดทับถมกันไว้เป็นปุ๋ยพืชสดอย่างดีตามธรรมชาติ บางแปลงก็ใช้วิธีพรวนหรือไถกลบลงดิน แล้วเติมด้วยเชื้อจุลินทรีย์ ปุ๋ยหมัก เพื่อเพิ่มการย่อยสลาย ปล่อยน้ำท่วมแปลง เมื่อเศษซากวัชพืขหญ้าเน่าเปื่อยก็กลายเป็นปุ๋ยอย่างดีให้กับพืชที่จะปลูก โดยไม่ต้องใส่ปุ๋ยอะไรเพิ่มในแปลงอีกเลย
|
|
|
|
|
|
|
หญ้าเป็นวัชพืช ที่ใช้คลุมหน้าดินอย่างดี |
ดินที่อุดมสมบูรณ์เป็นดินที่มีสิ่งมีชีวิตต่างๆ อาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก ที่ผิวดินจะเกิดกิจกรรมต่างๆ มากมาย บ้างย่อยสลายซากพืชซากสัตว์ บ้างช่วยพรวนดิน บ้างช่วยปลดปล่อยสารอาหาร ฮอร์โมน ต่างๆ ที่สำคัญให้กับพืช บ้างสิ้นอายุไขกลายเป็นปุ๋ยบำรุงดิน ฯลฯ ไม่ว่าจะเป็นสิ่งมีชีวิตที่มีขนาดใหญ่และเล็กกระจิ่ว เช่น จุลินทรีย์ ใส้เดือน ฯลฯ ล้วนมีประโยชน์ต่อความอุุดมสมบูรณ์ของดินทั้งสิ้น แต่สิ่งมีชีวิตเหล่านี้ จะไม่ทนต่อความร้อนของแสงแดด และต้องการความชื่นในการดำรงชีวิตอยู่ ดังนั้นแปลงเกษตรที่ปล่อยให้หญ้าเจริญงอกงาม และมีการตัดแต่งปล่อยให้เป็นพืชคลุมดิน ที่ดินแปลงเกษตรนั้นๆ จะมีความชุ่มชื้น มีความอุดมสมบูรณ์ของสารอาหารต่างๆ ที่พืชต้องการ สามารถปลูกพืชให้เจริญงอกงามโดยไม่ต้องเติมปุ๋ยใดๆ เพิ่มอีก
|
|
|
|
|
|
นอกจากนี้ในที่ดินที่เป็นดินดาน ลักษณะทางกายภาพของดินจะแน่นแข็งไม่มีความอุดมสมบูรณ์ รากพืชจะซอนไซหาอาหารได้อยาก แต่หากหาหญ้ามาปลูกคลุมดินไว้ เช่น หญ้าแฝก ซึ่งมีระบบรากที่ลึกและเป็นฝอยอุ้มน้ำได้ดี จะทำให้ดินดานบริเวณนั้นกลับมาร่วนซุย เก็บกักอุ้มน้ำได้ดีขึ้น เมื่อปลูกทิ้งไว้สักระยะหนึ่ง ดินบริเวณนั้นก็จะสามารถปลูกพืชให้เจริญงอกงามได้ |
|
|
|
|
|
|
พืชตระกูลเดียวกัน ย่อมให้สารอาหารที่จำเป็นแก่กันได้ดีเยี่ยม |
|
ในการทำการเกษตรอินทรีย์แบบพึ่งพิงธรรมชาติ นับว่าเป็นการเกษตรที่มีความละเอียดอ่อน ธรรมชาติพร้อมที่จะเปิดเผยความลับให้เสมอ หากเกษตรกรรู้จักสังเกต สภาพดินฟ้าอากาศ แสงแดด ความอุดมสมบูรณ์ของดิน มีผลต่อการเจริญเติบโตต่อพืชทั้งสิ้น พืชชนิดหนึ่งปลูกที่หนึ่งได้ผลดี แต่กลับปลูกอีกที่หนึ่งได้ผลผลิตไม่ดี แม้แต่ต่างฤดูกาล ก็ให้ผลผลิตที่ต่างกัน ปุ๋ยหมักที่นำมาใช้ก็เช่นกัน ต่างวัสดุที่นำมาใช้ทำปุ๋ย การเจริญงอกงามของพืชก็ไม่เหมือนกัน ขี้หมู ขี้วัว ขึ้ไก่ ขี้ค้างคาว มูลใส้เดือน ตลอดจนกระทั้งถึงพืชที่นำมาใช้ทำปุ๋ยหมัก ก็มีผลต่อการเจริญเติบโตต่อพืชทั้งสิ้น ที่สำคัญพืชในตระกูลเดียวกัน เมื่อนำมาทำปุ๋ยหมักก็ย่อมให้สารอาหารที่จำเป็นต่อพืชตระกูลนั้นเป็นพิเศษ จนมีคำกล่าวไว้ว่า "เอามันยำมันให้มันกิน" เช่น ปุ๋ยหมักสำหรับข้าว ก็ควรจะได้จากพืชตระกูลเดียวกัน เช่น หญ้าใบแคบทั้งหลายที่เจริญเติบโตได้อย่างรวดเร็ว ข้าวดีด ข้าวป่า หญ้าเนเปียร์ ฯลฯ |
|
|
|
|
|
หญ้าสมุนไพร ใช้รักษาโรคภัยต่างๆ |
|
นับเป็นภูมิปัญญามาแต่โบราณ สมุนไพรที่ใช้รักษาโรคต่างๆ ก็ได้มาจากต้นหญ้าวัชพืชมากมาย เช่น หญ้าดอกขาวใช้เป็นยาสำหรับคนที่ต้องการเลิกสูบบุหรี่ แก้ไอเรื้อรัง หญ้าลูกใต้ใบ ใช้แก้ไข ขับประจำเดือน สาบเสือใช้ฟอกสมานแผลสด หญ้าคาใช้ต้านการอักเสบ หญ้าแห้วหมูแก้บิด ปวดท้อง ขับลม หญ้ารีแพร์ หญ้าสมุนไพรคืนความสาว หญ้าปักกิ่ง ใช้ต้านมะเร็ง หญ้าหวาน รักษาเบาหวาน เพิ่มกำลังวังชา ฯลฯ แม้แต่ในยาแผนปัจจุบันบางชนิด ก็สกัดได้มาจากหญ้าวัชพืช |
|
|
|
|
|
หญ้ามีฮอร์โมน ที่สำคัญในการเจริญเติบโตของพืช |
|
หากสังเกตุให้ดี หญ้าวัชพืชเป็นพืชที่เจริญเติบโตได้อย่างรวดเร็วมาก บางชนิดมีลำต้นที่สูงมาก เช่น หญ้าขน หญ้าเนเปียร์ หญ้าแฝก ฯลฯ นั่นแสดงให้เห็นว่าในลำต้น ราก และใบ ของหญ้าวัชพืชเหล่านี้มี โกรทฮอร์โมน (Growth hormones) หรือฮอร์โมนเพิ่มการเจริญเติบโต และฮอร์โมนเร่งราก อยู่สูงกว่าหญ้าวัชพืชชนิดอื่น เมื่อนำมาทำน้ำหมัก หรือสกัดน้ำหมัก ก็จะได้ฮอร์โมนที่นำไปฉีดพ่นให้พืช เพิ่อเพิ่มการเจริญเติบโตได้อย่างรวดเร็วเช่นกัน |
|
|
|
|
|
ดินดีคือ ดินที่มีซากพืชซากสัตว์ทับถม |
|
หากยังจำกันได้ ในหนังสือที่เรียนชั้นประถมตอนเด็กๆ จะให้ความหมายของดินที่ดีคือดินที่มีซากพืชซากสัตว์ทับถมกันอยู่ เป็นดินที่เหมาะสำหรับการปลูกพืช ซึ่งก็ยังเป็นความจริงมาจนถึงปัจจุบันนี้ เพราะดินที่มีซากพืชซากสัตว์ทับถมกันนั้นก็หมายถึงดินที่มีอินทรีย์วัตถุอยู่สูง ทำให้เนื้อดินไม่แน่น ร่วนซุย ระบายน้ำได้ดี เหมาะสำหรับการดำรงอยู่ของสิ่งมีชีวิตในดินและระบบรากพืชที่จะทำให้พืชเจริญเติบโตได้ดี เพียงแต่ในปัจจุบันเราพบว่านอกจากการทับถมของซากพืชซากสัตว์แล้ว ยังต้องมีจุลินทรีย์ซึ่งเป็นตัวย่อยสลายซากพืชซากสัตว์ ให้เป็นสารอาหารต่อพืช และตัวจุลินทรีย์เองก็คือซากสัตว์เป็นจำนวนมหาศาลมากที่หมดอายุไขอยู่ในดินตลอดเวลา จนเราได้คำนิยามใหม่ว่า "ดินดีคือดินที่มีชีวิต" ดังนั้นการจะทำให้ดินดีมีความอุดมสมบูรณ์ เหมาะสมต่อการเพาะปลูก จึงจำเป็นต้องทำให้ระบบนิเวศของดินมีความน่าอยู่ต่อสรรพสิ่งมีชิวิตในดิน คือมีซากพืช ซากสัตว์ มีความชุ่มชื่น นั่นหมายความว่าต้องมีพืชหรือเศษซากพืชคลุมดินไว้ เพื่อให้สิ่งมีชีวิตในดินเจริญเติบโตสร้างกิจกรรมในดินได้ |
|
|
|
|
|
การทำปุ๋ยหมัก จากหญ้าวัชพืช |
|
หญ้าวัชพืช เป็นพืชที่โตเร็ว สามารถดูดสารอาหารต่างๆ มาสะสมในลำต้นได้อย่างรวดเร็ว จึงเหมาะอย่างยิ่งที่จะนำมาทำเป็นปุ๋ยสำหรับพืช ทั้งในรูปปุ๋ยพืชสด และปุ๋ยหมัก ที่สำคัญหาได้ง่าย ราคาไม่แพง เคล็ดลับในการทำปุ๋ยหมัก ให้เรียนแบบในธรรมชาติ ในป่าที่อุดมสมบูรณ์ ซึ่งจะมีสิ่งมีชิวิตเล็กๆ ที่อยู่ในดิน ซึ่งเราเรียกรวมๆ ว่า จุลินทรีย์ เป็นตัวช่วยในการย่อยสลายเศษซากต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นซากพืช ซากสัตว์ เมื่อเกิดกระบวนการย่อยสลายที่สมบูรณ์ เศษซากเหล่านั้นจะมีกลิ่นที่หอม ร่วนซุย ดังนั้นเคล็ดลับในการทำปุ๋ยหมัก จึงต้องใส่จุลินทรีย์ที่ดีและแข็งแรงลงไปในกองปุ๋ยหมัก พร้อมทั้งให้อาหารแก่จุลินทรีย์ ซึ่งได้แก่ รำข้าว น้ำตาล เพื่อให้จุลินทรีย์เติบโตขยายแพร่พันธุ์ได้เป็นจำนวนมากๆ ทำให้กองปุ๋ยหมักนั้น ย่อยสลายได้เร็วขึ้น และที่สำคัญต้องให้กองปุ๋ยหมักนั้นมีความชุ่มชื่นและกลับกองปุ๋ยให้ได้รับออกซิเจนอยู่เสมอ การย่อยสลายหญ้าวัชพืชจึงจะเกิดขึ้นอย่างสมบูรณ์และรวดเร็ว |
|
|
|
|
|
หญ้าวัชพืช ดัชนีชี้วัดความอุดมสมบูรณ์ของดิน |
|
ดินที่ดีเหมาะสมต่อการเจริญเติบโตของพืช ย่อมจะเป็นดินที่หญ้าวัชพืชเจริญเติบโตได้อย่างงอกงาม และหญ้าวัชพืชก็เป็นพืชที่เจริญเติบโตได้อย่างรวดเร็ว ดังนั้นวัชพืชหญ้าจึงเป็นดัชนีชีวัดอย่างดีถึงความอุดมสมบูรณ์ของดินบริเวณนั้น แปลงเกษตรใดที่มีการใช้สารเคมีในการปลูกพืช ดินจะเป็นพิษ แน่นแข็ง ไม่เหมาะต่อการอยู่อาศัยของจุลินทรีย์ แม้แต่หญ้าวัชพืช ยังไม่อยากจะขึ้น ตรงกันข้ามกับแปลงเกษตรที่มีการปลูกพืชตามแนวเกษตรอินทรีย์ ใช้เพียงปุ๋ยหมัก นำหมักจุลินทรีย์ บริเวณแปลงจะเต็มไปด้วยหญ้าวัชพืช แข่งกันเจริญเติบโต มากมายหลายชนิด ทั้งในน้ำและบนดิน
|
|
|
|
|
|
|
|
|
ปรุงดินสร้างสารอาหาร เพื่อพืชให้ปรุงเป็นยา |
|
ในการปลูกพืช นอกจากจะทำการจะปรับปรุงดินให้มีความอุดมสมบูรณ์ ร่วนซุย ระบายน้ำได้ง่ายแล้ว สารอาหารที่อยู่ในดินก็มีความสำคัญเป็นอย่างมาก ที่มีผลต่อการเจริญเติบโตของพืช โดยพืชแต่ละชนิดก็มีความต้องการที่แตกต่างกัน ดังนั้นเกษตรกรจึงจำเป็นต้องหาความรู้เรื่องสารอาหารนี้ ให้ตรงกับพืชที่ทำการเพาะปลูก การปรับปรุงสารอาหารในดินด้วยปุ๋ยหมักก็คือการปรุงดิน ให้เป็นอาหารสำหรับพืช ยิ่งหากเราต้องการให้ได้พืชที่ปลูกนั้นเป็นยา สารอาหารที่ได้จากปุ๋ยหมักที่ใช้ปรุงดินยิ่งต้องมีความละเอียดและหลากหลาย ปุ๋ยหมักจากหญ้าวัชพืช เป็นปุ๋ยหมักที่ได้จากการหมักหญ้าวัชพืชที่หลากหลายชนิด แต่ละชนิดก็มีการสะสมสารอาหารแตกต่างกัน บางชนิดเป็นสารสมุนไพร เมื่อพืชที่เพาะปลูกดูดซึมเข้าไป จึงได้สารอาหารที่ค่อนข้างจะครบถ้วนตามธรรมชาติ พืชชนิดนั้นที่เพาะปลูกได้ จึงมีคุณสมบัติทางสมุนไพรทางยาตามธรรมชาติในแบบที่มันควรจะเป็น |
|
|
|
|
|
การกำจัดหญ้าวัชพืช ในแปลงเกษตร |
|
ถึงแม้หญ้าวัชพืชจะสามารถนำมาทำเป็นปุ๋ยและมีประโยชน์อย่างอื่นอีกมาก แต่หากปล่อยให้ขึ้นไปพร้อมๆ กับพืชประธาน ผลผลิตของพืชที่ปลูกคงจะต้องลดลง เนื่องจากเกิดการแย่งสารอาหารและแสงแดดจากหญ้าวัชพืชนั่นเอง วิธีการกำจัดก่อนปลูกพืชประธานมีด้วยกันหลากหลายรูปแบบ เฃ่น ไถกลบเป็นปุ๋ยพืชสด คลุมแปลงด้วยหญ้าแห้ง ฟางข้าว หรือพลาสติกดำ ไถพรวนแล้วเอาน้ำเข้าท่วมขัง ปล่อยให้สัตว์เลี้ยง วัว ควายกิน เป็นต้น นอกจากนี้ยังสามารถใช้สารอินทรีย์ที่ไม่เป็นพิษภัยต่อสิ่งแวดล้อม มาช่วยกำจัดได้ เช่น ฉีดพ่นด้วยน้ำส้มสายชู น้ำหมักจุลินทรีย์เข็มข้น หรือน้ำเกลือ ตอนแดดจัดๆ แต่กรณีน้ำเกลืออย่าใส่โดยโรยเกลือเป็นเม็ด เพราะจะทำให้เกิดดินเค็มปลูกพืชไม่ขึ้น โรยกำจัดด้วยแป้งข้าวโพด ซึ่งจะมีผลดีเพราะแป้งข้าวโพดจะช่วยดึงดูดให้ไส้เดือนเขามาอาศัยที่บริเวณนั้นด้วย |
|
|
|
|
|
เมื่อพืชที่เพาะปลูกเจริญเติบโตขึ้น หากเป็นแปลงนา เมื่อกล้าข้าวอายุได้ 4-5 วัน ทั้งนาหว่าน นาโยน นาดำ ให้ปล่อยน้ำเข้าท่วมขังในนา เพื่อให้เมล็ดหญ้าวัชพืชเน่า หรือหญ้าวัชพืชที่งอกแล้วไม่เจริญเติบโต หากเป็นแปลงเกษตรอื่นๆ ต้องใช้วิธีการถอน หรือใช้เครื่องมือเข้าไปไถพรวน ซึ่งกรณีนี้ การปลูกพืช จะต้องเป็นแถวมีระเบียบและช่องว่างพอดีที่จะให้เครื่องมือหรือเครื่องจักรเข้าไปทำการไถพรวนกำจัดหญ้าวัชพืชได้ |
|
|
|
|
|
วัชพืชหญ้า ใช้เป็นอาหารทั้งคนและสัตว์ |
|
ถึงแม้หญ้าวัชพืช จะเป็นพืชที่ไม่ต้องการในแปลงปลูกพืชอื่นๆ แต่หญ้าวัชพืชต่างๆ ก็เป็นอาหารของสัตว์ ทั้งสัตว์ป่าและสัตว์เลี้ยง ไม่ว่าจะเป็น วัว ควาย หมู เป็ด ไก่ กระตาย สุนัข ปลา ฯลฯ ซึ่งตั้งแต่โบราณรุ่นปู่ย่าตายาย ก็ไม่เคยที่จะเลี้ยงสัตว์เลี้ยงด้วยอาหารสำเร็จรูป อาหารสัตว์ส่วนใหญ่จะเป็นหญ้า ซึ่งสัตว์เลี้ยงส่วนมากต้องหากินเอง มีบ้างที่คนเลี้ยงต้องคอยจัดหาเตรียมไว้ให้ ที่สำคัญสารอาหารในหญ้าวัชพืช มีอยู่อย่างครบถ้วนและมีเป็นจำนวนมาก ดังนั้นสัตว์เลี้ยงจึงเจริญเติบโตอ้วนท้วน สมบูรณ์ตามธรรมชาติ เมื่อนำมาแปรรูปเป็นอาหาร จึงมีรสชาดที่อร่อยอีกด้วย |
|
|
|
|
|
นอกจากจะเป็นอาหารสัตว์ หญ้าวัชพืชยังเป็นอาหารที่แสนอร่อยสำหรับมนุษย์ แถมมีสารอาหารที่จำเป็นต่อร่างกายหลายชนิด เช่น ผักบุ้ง ผักปอด ผักแว่น หญ้าหวาน ฯลฯ บางชนิดใช้เป็นพืชสมุนไพรรักษาโรค เช่น หญ้าปักกิ่ง หญ้าแห้วหมู ฯลฯ |
|
|
|
|
|
ที่ไร่พอใจ เกษตรอินทรีย์ นอกจากจะถือว่าหญ้าวัชพืชเป็นปุ๋ยพืชสดอย่างดีแล้ว หญ้าวัชพืชยังมีประโยชน์ด้านอื่นๆ อีกมากมาย เช่น นำมาหมักเป็นปุ๋ย ปล่อยให้เป็นพืชคลุมดิน รากของหญ้าช่วยให้ความชุ่มชื่นแก่ดิน ช่วยในการยึดเกาะของดินไม่ให้พังทลาย ทำให้ดินร่วนซุย หญ้าหลายชนิดเป็นยาสมุนไพรรักษาโรค บางชนิดใช้เป็นอาหารให้กับคน สัตว์ ที่ไร่พอใจจึงไม่มีการฉีดพ่นสารเคมีฆ่าหญ้าใดๆ ทั้งสิ้น แต่จะใช้การตัดด้วยเครื่องตัดหญ้าแทน
|
|
|
รวมรูป หญ้าไม่ใช้ปัญหาวัชพืชการเกษตร |
|
|
|
|
|
|
|
|
|
ความสำคัญของเกษตรอินทรีย์ |
|
|
แนวความคิด ของการทำเกษตรอินทรีย์ แบบยั่งยืน |
|
แล้วคำว่า "เกษตรอินทรีย์" มันคือการเกษตรอะไรกันแน่.... |
|
ความสำคัญเกี่ยวกับ การทำเกษตรที่เป็นเกษตรอินทรีย์ 100 เปอร์เซนต์ |
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|