แตนลามสัตว์ไม่ถือศิล
ศัตรูคู่อาฆาตกับหนอนน้อย ที่ไร่พอใจ
|
|
เรื่องและเรียบเรียงโดย ตุ๊แสนฤทธิ์ |
|
|
|
|
แตนลามเป็นแมลงที่อยู่ในตระกูลเดียวกับผึ่งและต่อ แต่มีลักษณะการทำรังและการหาอาหารที่ต่างกัน แตนลามมักพบทำรังอยู่ติดกับกิ่งไม้ ง้ามไม้ใหญ่เล็ก รังมีขนาดแค่เพียงไม่กี่เซนติเมตรจนยาวถึงเป็นเมตร โดยจะสร้างรังลามต่อกันไปเรื่อยๆ ลักษณะรังจะสร้างเป็นช่องหกเหลี่ยม นางพญาของแตนลามจะไข่ตัวอ่อนไว้ในช่องหกเหลี่ยมนี้ จากนั้นแตนลานกรรมกรจะออกจากรังไปล่าหาตัวหนอน แล้วต่อยตัวหนอนให้เป็นอัมพาตคาบมาเก็บไว้ที่รัง เพื่อให้ตัวอ่อนได้กินเมื่อฟักออกมาเป็นตัว |
|
|
|
แตนลามเป็นสัตว์ที่ดุร้าย หากมีสิ่งใดๆ แปลกปลอมเข้าไปใกล้รัศมีของรัง จะพาฝูงเข้าโจมตีทันที และเมื่อต่อยแล้วจะไม่ตายเหมือนผึ่งสามารถต่อยซ้ำๆ ได้หลายๆ ทีเหมือนตัวต่อ เพียงแต่พิษไม่รุนแรงเหมือนตัวต่อ อาการที่ถูกต่อยครั้งแรกจะเหมือนโดนหนังสติกยิงใส่แรงๆ จากนั้นบริเวณที่ถูกต่อยจะบวมแดงและมีอาการปวดสำหรับคนที่ไม่แพ้พิษ หลังจากผ่านไป 2-3 ชั่วโมงก็จะหายเป็นปกติ แต่ใครที่แพ้ควรรีบไปหาแพทย์ |
|
|
|
|
|
ลักษณะทั่วไป ของแตนลาม |
|
แตนลาม จัดเป็นแมลงจำพวกผึ้ง เพราะว่ามีเหล็กในและการดำรงชีวิตที่คล้ายคลึงกันแตนลาม เป็นแมลงเอวคอด ปีกบางสองคู่ และเป็นนักสู้ที่ไม่เคยยอมแพ้ใคร แตนลามมีหลายชนิดสร้างรังรูปแบบแปลกๆ สวยงาม แตนบัว หรือแตนฝักบัวสร้างรังคล้ายกับฝักบัวคว่ำ รังนี้ยึดติดแน่นกับกิ่งไม้ ด้านล่างของรังที่หันลงดินแบ่งเป็นช่องสำหรับเป็นที่อยู่ของตัวอ่อน และเป็นทางเข้าออก แตนสร้างรังโดยการเคี้ยวไม้เก่าๆ ผสมกับน้ำลายซึ่งจะแปรสภาพเป็นเยื่อไม้แล้วเอาไปเรียงต่อกันเป็นห้องจนกลายเป็นรัง ต่อมีขนาดลำตัวยาว 1.5 ซ.ม. ขึ้นไป ส่วนแตนลาม มีขนาดต่ำกว่า 1.5 ซ.ม. ต่อและแตนลามมีเหล็กไนอยู่ที่ส่วนปลายของลำตัว |
|
|
|
|
|
แตนลามส่วนใหญ่เป็นสัตว์สังคมที่อยู่ร่วมกันในรังขนาดใหญ่ โดยในแต่ละรังจะมีนางพญา และประชากรแตนลามตัวผู้และตัวเมียอีกจำนวนมาก ที่อยู่ร่วมกันในลักษณะแบบครอบครัวมากกว่าแบบประชากรกลุ่มใหญ่ แตนลามตัวผู้จะมีโครโมโซมเพียง 1 ชุด เกิดจากไข่ของนางพญาที่ไม่ได้รับการผสม แต่ตัวผู้จะมีหน้าที่ผสมพันธุ์กับนางพญาเพียงอย่างเดียว ขณะที่ไข่ที่ได้รับการผสมจะมีโครโมโซม 2 ชุด และเจริญเป็นต่อหรือแตนตัวเมีย แต่ทุกตัวจะเป็นหมันทั้งหมด และมีหน้าที่ในการหาอาหาร เลี้ยงดูตัวอ่อนรุ่นต่อๆไป และดูแลปกป้องรัง ซึ่งเรียกต่อแตนตัวเมียเหล่านี้ว่า "แตนกรรมกร" |
|
การที่ต่อแตนกรรมกรต้องเป็นหมันและสืบพันธุ์ออกลูกออกหลานไม่ได้ เนื่องจากธรรมชาติได้คัดสรรให้เป็นเช่นนั้นโดยในตัวเมียเหล่านี้มีการสร้างสารเคมีบางอย่างที่ส่งผลให้มันเป็นหมัน และการที่พวกมันเป็นหมัน สืบพันธุ์เองไม่ได้ ทำให้พวกมันทำงานเพื่อช่วยต่อแตนนางพญาผลิตประชากรต่อแตนรุ่นใหม่ออกมาได้มากกว่าการที่ต่อแตนแต่ละตัวจะสืบพันธุ์ออกลูกออกหลานกันเอง และที่เป็นเช่นนี้เพราะต่อแตนมีความสัมพันธ์ระหว่างพี่น้องตัวเมียแนบแน่นมากกว่าความสัมพันธุ์แบบแม่กับลูก |
|
ประโยชน์ ของแตนลาม |
|
"เพชรฆาต" คือภาพลักษณ์ของแตนลามที่มีพฤติกรรมเป็นสัตว์ผู้ล่า และมีพิษสงร้ายกาจ แต่อีกด้านหนึ่งของแตนลามก็สวมบทบาท "พระเอก" ของธรรมชาติ เนื่องจากอาหารอันโอชะของพวกมันคือตัวอ่อนของหนอนแมลงชนิดอื่น โดยการต่อยเหยื่อแล้วพากลับรังไปเลี้ยงตัวอ่อน จึงเป็นการควบคุมประชากรแมลงชนิดอื่นโดยธรรมชาติ รวมทั้งแมลงศัตรูพืชด้วย ทำให้เกิดสมดุลของสิ่งมีชีวิตในธรรมชาติ นอกจากนี้รังแตนลามที่มีตัวอ่อนอยู่ยังเป็นอาหารที่มีโปรตีนสูง เมื่อนำมาปิ้งย่าง โรยเกลือนิดหน่อยรับประทานอร่อยอย่าบอกใครเชียว |
|
|
|
|
|
|
วิธีการปฐมพยาบาล เมื่อถูกต่อย |
|
แตนลามมักจะจู่โจมเมื่อออกล่าเหยื่อ หรือป้องกันรังและอาณาเขตของตัวเอง ฉะนั้นเราจึงไม่ควรไปรบกวนตัวแตนลาม หรือรังของพวกมันโดยเด็ดขาด แต่หากไม่ได้ตั้งใจหรือเกิดเหตุสุดวิสัยจนถูกแตนลามต่อยเข้า ควรออกจากบริเวณนั้นให้เร็วที่สุด เพราะแตนลามจะปล่อยสารฟีโรโมนเรียกให้พวกพ้องเข้ามาช่วยจู่โจมศัตรู ควรหาที่หลบซ่อนที่ปลอดภัยที่สุด หาเสื้อหรือผ้าคลุมหัวให้มิดชิด เนื่องจากแตนลามชอบจู่โจมที่ใบหน้าและลำคอ ซึ่งเป็นอันตรายมากกว่าส่วนอื่น และหากจำเป็นต้องเข้าไปในบริเวณที่มีแตนลามอาศัยอยู่ ก็ไม่ควรประพรมน้ำหอม เพราะจะทำให้แตนลามตามกลิ่นได้เมื่อเราถูกจู่โจม และหากแตนลามเข้ามาทำรังในบริเวณบ้านเรือนของเรา ควรติดต่อผู้เชี่ยวชาญให้ช่วยกำจัดให้จะดีที่สุด |
|
|
|
|
|
กรณีที่ผู้ป่วยมีประวัติความไวต่อพิษของแมลง ซึ่งจะมีอาการบวมทันทีตรงบริเวณที่ถูกต่อยหรือมีอาการหายใจลำบาก ให้รีบทำการปฐมพยาบาล ดังนี้ |
|
ใช้ผ้าหรือสายยางแบนๆ หรือเชือกรัดเหนือบาดแผลที่ถูกแมลงต่อยประมาณ 5-10 เซนติเมตร โดยรัดให้แน่นแต่สามารถสอดนิ้วมือเข้าไปได้และสามารถจับชีพจรส่วนปลายนั้นได้ และคลายผ้าที่รัดไว้ทุก 15 นาที ระยะเวลาที่คลายผ้านานประมาณ 0.5-1 นาที เพื่อลดการแพร่กระจายของพิษ เอาเหล็กในออก โดยใช้วัตถุที่มีรูตรงกลาง เช่น ลูกกุญแจ ปลายปากกาลูกลื่นชนิดกด วางให้รูอยู่ตรงกลางบริเวณเหล็กใน กดให้เหล็กในโผล่ออกมาแล้วค่อยๆดึงเหล็กในออก ห้ามบีบเค้น เพราะจะทำให้ถุงน้ำพิษที่อยู่บริเวณเหล็กไนแตก และทำให้ร่างกายได้รับพิษมากขึ้น หรือใช้สกอตเทป (Scotch tape) ปิดทาบบริเวณที่ถูกต่อย แล้วดึงสกอตเทปออก เหล็กในจะติดออกมาด้วย หากผู้ป่วยมีภาวะหยุดหายใจให้รีบช่วยหายใจโดยการผายปอด หรือหัวใจหยุดเต้นให้รีบทำการนวดหัวใจ
แล้วรีบนำผู้ป่วยส่งโรงพยาบาลทันที |
|
กรณีที่ผู้ป่วยไม่มีประวัติมีความไวต่อพิษของแมลงและถูกแมลงต่อยไม่มาก เอาเหล็กในออกตามวิธีดังกล่าวข้างต้น
ล้างทำความสะอาด บริเวณที่ถูกแมลงต่อยด้วยน้ำและสบู่
ประคบเย็นโดยการวางถุงน้ำแข็งบนตำแหน่งที่แมลงต่อยเพื่อลดอาการบวมและลดการดูดซึมพิษเข้าสู่ร่างกาย
ทาบริเวณที่ถูกแมลงต่อยด้วยน้ำยาแอมโมเนียหอม เพราะพิษของแมลงเหล่านี้มีฤทธิ์เป็นกรด หรือทาด้วยครีมแก้พิษพวกแอนติฮิสตามีน หรือคาลามายด์โลชั่น
ให้รับประทานยาแก้ปวด เช่น พาราเซตามอล 500 มิลลิกรัม จำนวน 2 เม็ด เมื่อมีอาการปวด |
|
|
|
|
|
เหล็กในอาวุธร้าย ของแมลงเพชรฆาตแตนลาม |
|
หลายคนมักเข้าใจว่าแตนกรรมกร เป็นแตนลามตัวผู้ เพราะมีความขยันขันแข็ง ดุร้าย และต่อยเหยื่อให้เจ็บปวดได้ แต่นี่เป็นความเข้าใจที่ผิดถนัด เพราะเหล็กไนของแตนลามกรรมกรนั้นพัฒนามาจากอวัยวะสำหรับวางไข่ของตัวเมีย เพราะฉะนั้นจึงมีแต่แตนลามตัวเมียเท่านั้นที่มีเหล็กไน (รวมต่อหรือผึ้งตัวเมียด้วย) ซึ่งมีไว้เพื่อหาอาหาร ป้องกันตัว และป้องกันรังจากศัตรู |
|
เหล็กไนของแตนลามมีลักษณะคล้ายเข็มปลายแหลมคม โดยโครงสร้างของเหล็กไนประกอบด้วยแผ่นแข็งมีรอยหยักเล็กๆหลายรอย จำนวน 2 แผ่น ห่อหุ้มรอบท่อน้ำพิษ เมื่อแตนลามต่อยเหยื่อ เหล็กไนจะค่อยๆทิ่มแทงเข้าไปในเนื้อของเหยื่อ แล้วฉีดสารพิษออกมาทางท่อน้ำพิษราวกับเข็มฉีดยา สารพิษดังกล่าวเป็นสารประกอบอินทรีย์ประเภทเดียวกับที่พบในพิษของแมงมุมและแมงป่อง สามารถซึมเข้าสู่กระแสเลือดของเหยื่อ ซึ่งน้ำพิษของต่อชนิดร้ายแรง 1 ตัว มีความรุนแรงพอๆ กับน้ำพิษของผึ้ง 550 ตัว รวมกัน |
|
สำหรับคนที่ถูกแตนลามต่อยนั้นจะมีอาการรุนแรงต่างกันไปอาการแพ้พิษต่อแตนของแต่ละคน และจำนวนแตนลามที่ต่อย โดยคนที่แพ้ไม่มาจะมีอาการเจ็บ ปวด บวมที่แผลเล็กน้อย ถ้าแพ้ปานกลางก็จะเจ็บปวดที่แผลมากขึ้น อาจมีอาการหน้ามืด เป็นลม ลมพิษขึ้นตามตัว หรือมีไข้ร่วมด้วย ส่วนผู้ที่แพ้มากจะเกิดอาการหายใจติดขัด ตัวเขียวคล้ำ ความดันโลหิตต่ำ ช็อคหมดสติ และอาจเสียชีวิตได้ ซึ่งอาการแพ้นี้จะทวีความรุนแรงขึ้นได้เมื่อถูกแตนลามต่อยในครั้งต่อๆไป |
|
|
|
|
|
วิวัฒนาการ ของแตนลามในสภาพโลกร้อน |
|
ปีนี้ฤดูร้อนถึงแม้จะมีฝนโปยปรายลงมาอย่างหนักเป็นบางช่วง พอให้คลายร้อนลงไปได้บ้าง แต่ช่วงบ่ายของทุกวัน ทั้งอากาศและแสงแดดแผดเผา เหมือนจะให้มอดไหม้เป็นเถ้าถ่าน มันร้อนๆๆๆ เหลือเกิน จะหลอมละลายอยู่แล้ววว.....มันช่างร้อนอะไรเยี่ยงนี้ |
|
|
|
|
|
แต่ก็น่าแปลกใจที่บรรดาแตนลามที่พากันมาทำรังอยู่หัวเสา ซึ่งเตรียมไว้สำหรับปลูกโรงเพาะกล้า มันยังสามารถดำรงชีวิตเป็นปกติ เหมือนกับอุณหภูมิจะไม่มีผลต่อการดำรงชีวิตของมันเลย ต้นไม้สักต้นก็ไม่มีที่จะเป็นร่มเงา แม้อุณหภูมิจะสูงถึง 40 กว่าองศาเซลเซียส ช่างเป็นสัตว์ปีกที่ทรหดจริงๆ ทั้งขยัน และอดทน |
|
|
|
|
|
ครั้งนี้นับเป็นเรื่องแปลกที่พบแตนลามทำรังอยู่บนหัวเสากลางแดดร้อนๆ ในฤดูแล้งกลางเดือนเมษายน โดยไม่มีแม้แต่ร่มเงาของต้นไม้สักต้นให้พึ่งพิง แสดงให้เห็นว่าแตนลามเป็นสัตว์ที่ทนต่อสภาพอากาศที่ร้อนได้สูงมาก มีการปรับวิวัฒนาการทางร่างกายที่สามารถต่อสู้กับสภาพอากาศที่ร้อนจัด ที่มนุษย์เองก็ไม่อาจดำรงชีวิตอยู่ได้ เพราะนอกจากจะอยู่กลางแดดแล้ว ที่หัวเสาซึ่งเป็นแท่งปูนซิเมนต์ เมื่อถูกความร้อนจากดวงอาทิตย์ จะทำให้เสาทั้งต้นร้อนระอุเหมือนถ่านไฟ คงต้องขอคารวะในความอดทน และความพยายามดิ้นรนเพื่อดำรงชีวิต เพื่อสืบลูกสืบหลาน ท่ามกลางธรรมชาติเช่นนี้ |
|
แตนลามเพชรฆาต ที่ไร่พอใจ เกษตรอินทรีย์ |
|
ที่ไร่พอใจ เกษตรอินทรีย์...จะพบแตนลามทำรังอยู่ทั่วไปบนต้นไม้ เช่น ต้นปะดู่ ต้นฉำฉา ต้นสะเดา ฯลฯ เป็นจำนวนมาก เวลาเข้าใกล้ต้นไม้ต้องคอยระวังเนื่องจากสีของรังแตนลามจะดูกลมกลืนกับกิ่งไม้มาก สัตว์ตระกูลผึ่ง ต่อ แตน จะมีความไวต่อสารเคมีมาก โดยเฉพาะต่อและแตนลาม ซึ่งหากินโดยการกินตัวหนอนเป็นอาหาร หากมีการพ่นสารเคมีในพืชผักมักจะไม่มีสัตว์ประเภทนี้ทำรังอยู่ในไร่เลย จึงเป็นดัชนีชี้วัดได้อย่างดีถึงไร่แห่งนั้นว่ามีการใช้สารเคมีในการเกษตรหรือไม่ นอกจากนี้แตนลามยังเป็นสัตว์นักล่า ที่จะต้องล่าหนอนต่างๆ มาเป็นเหยือ และเก็บสะสมไว้ในรังเพื่อเป็นอาหารสำหรับตัวอ่อน ดังนี้นแตนลามจึงมีความสำคัญมากต่อการปลูกพืชที่ไร่พอใจ เนื่องจากในไร่ไม่ได้ฉีดสารเคมีใดๆ เลย จึงจำเป็นต้องพึ่งพิงศัตรูธรรมชาติจากแมลงเหล่านี้เป็นตัวช่วยที่สำคัญ |
|
|
|
รวมรูปภาพของแตนลาม ที่ไร่พอใจ เกษตรอินทรีย์ |
|
|
|
|
|
|
|
ความสำคัญของเกษตรอินทรีย์ |
|
|
แนวความคิด ของการทำเกษตรอินทรีย์ แบบยั่งยืน |
|
แล้วคำว่า "เกษตรอินทรีย์" มันคือการเกษตรอะไรกันแน่.... |
|
ความสำคัญเกี่ยวกับ การทำเกษตรที่เป็นเกษตรอินทรีย์ 100 เปอร์เซนต์ |
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|