0 รายการ 0 บาท
สมัครสมาชิกฟรี ล็อกอินใช้งาน นโยบาบเวบไซต์  
 
 
  หน้าหลัก     เกี่ยวกับไร่พอใจ     สินค้าจากไร่พอใจ     เรื่องราวที่ไร่พอใจ     ติดต่อไร่พอใจ
ค้นหาเรื่องราว :
 
สมัครอีเมล์รับข่าวสารต่างๆ จากไร่พอใจ
 
 
 
 
พอเพียง ไม่ใช่อัตคัดขัดสน เป็นการพออยู่พอกิน เหลือแจกจ่ายขาย แล้วจึงขยายเพิ่มได้
 
 
     
 
     
 
การพัฒนาพื้นที่
บางส่วนของไร่พอใจ
ที่เข้าร่วมโครงการคนกล้าคืนถิ่น

เรื่องและเรียบเรียงโดย ตุ๊แสนฤทธิ์
 
 
 
จริงๆ พื้นที่ของไร่พอใจส่วนนี้จะมี 2 แปลง ทั้งหมด 42 ไร่ แต่แบ่งพื้นที่ที่ติดถนนน่าจะมีพื้นที่ราวๆ 3-4 ไร่ โดยพื้นที่บางส่วนถูกแบ่งออกไปใช้ก่อสร้างเรือนเพาะกล้า ที่พัก ร้านค้า บ้านพักตลอดจนห้องน้ำ เพื่อใช้ประโยชน์ด้านอื่นๆ ดังนั้นจึงเหลือพื้นที่เพียง 2-3 ไร่สำหรับเพาะปลูก ปัจจุบันในบริเวณที่ส่วนนี้ยังไม่มีความพร้อม เนื่องจากพื้นดินเป็นดินดาน ภูมิทัศน์ต่างๆ ก็ยังไม่ได้ปรับให้ดูสวยงามน่าอยู่ ที่สำคัญยังไม่มีบ้านพัก แทบจะบอกได้ว่าเป็นเหมือนที่รกร้างที่พบเห็นโดยทั่วไป ดังนั้นการพัฒนาปรับปรุงพื้นที่ส่วนนี้จึงท้าทายมากที่จะทำสำเร็จภายใน 5 เดือน ตามโครงการคนกล้าคืนถิ่น ตัวผมเองก็ยังไม่มั่นใจกับเวลาอันน้อยนิดนี้
 
 

ไร่พอใจ เกษตรอินทรีย์ เป็นพื้นที่เกษตรอินทรีย์ผืนใหม่ และเป็นชื่อใหม่ ยังไม่เป็นที่คุ้นหูคุ้นตา ทั้งๆ ที่เราได้ทำการเกษตรมากว่า 10 ปีแล้ว แต่พืชหลักๆ จะเป็นข้าวเสียส่วนใหญ่ จะพูดง่ายๆ ก็เป็นการปลูกพืชเชิงเดี่ยว และตอนเริ่มต้น ก็เริ่มด้วยการทำการเกษตรแผนใหม่ ใช้ปุ๋ยและยาเคมี แต่ไม่ได้ใช้มากเหมือนเกษตรกรโดยทั่วไป จนกระทั้งเมื่อ 5 ปีที่แล้วก็ได้มาพบว่า หนทางนี้ไม่ใช่การเกษตรที่ยั่งยืน จึงได้เริ่มหันมาทำการเกษตรอินทรีย์แทน โดยเน้นการปรับปรุงดินให้ดินดี ดินมีชีวิต พร้อมทั้งลดการใช้ปุ๋ยและยาเคมีลง และเนื่องจากมีพื้นที่ของไร่พอใจแยกกระจายอยู่หลายแห่ง จึงสามารถทดลองกับพื้นที่กว้างๆ ได้ง่าย จนเกิดความมั่นใจในแนวทางการทำเกษตรอินทรีย์ โดยเฉพาะพื้นที่ไร่ที่นำเข้าร่วมโครงการคนกล้าคืนถิ่นผืนนี้ จะเป็นพื้นที่ที่พร้อม สำหรับเกษตรอินทรีย์ 100 เปอร์เซ็นต์ และน่าจะสามารถพัฒนาไปสู่วิธีการทำเกษตรธรรมชาติได้ไม่ยากนัก

 
 
 
เกษตรธรรมชาติ เป้าหมายที่วางไว้เพื่อเดินไปให้ถึง
 

เกษตรธรรมชาติ เป็นการทำเกษตรพึ่งพิงธรรมชาติ ให้ความสนใจต่อสภาพแวดล้อมให้เกิดความสมดุลย์ มีการปรับปรุงดินให้ดี ให้มีชีวิตเหมือนดินในป่า โดยอาศัยกลไกของธรรมชาติ จากจุลินทรีย์เป็นตัวจักรสำคัญ เกษตรธรรมชาติมีหลายแนวคิดที่รู้จักกันแพร่หลาย เช่น แนวคิดของ มาชาโนบุ ฟูกูโอกะ แนวคิดเกษตรธรรมชาติคิวเซของ โมกิจิ โอกาดะ และแนวคิดเกษตรธรรมชาติเกาหลีของ ฮาน คิว โช ซึ่งโดยส่วนใหญ่จะมีแนวคิดใกล้เคียงกัน คือ การไม่ไถพรวนดิน ไม่ใส่ปุ๋ยเคมี ไม่กำจัดวัชพืช ใช้การคลุมดิน ใช้พลังต่างๆ จากธรรมชาติ และให้ความสำคัญอันดับแรกๆ กับการปรุบปรุงดินให้เหมือนดินในป่า

 
ที่ไร่พอใจ มีการปลูกพืชในระบบเกษตรอินทรีย์มาหลายปีแล้ว ซึ่งยังมีการไถพรวนดิน เพื่อกำจัดวัชพืช ในปีที่ผ่านมา เนื่องจากมีฝนตกลงมาไม่มาก และไม่สม่ำเสมอ เป็นผลให้ต้องไถพรวนดินหลายครั้ง จนทำให้ต้นทุนในการทำการเกษตรสูงขึ้น พื้นที่บางแปลงต้องจ้างไถพรวนถึง 3 ครั้งกว่าจะได้หว่านข้าว ทางไร่พอใจ จึงมีแนวคิดที่จะไม่ไถพรวนดิน ซึ่งก็เป็นการกำจัดวัชพืชอีกวิธีหนึ่ง แต่ใช้วิธีการตัดหญ้าวัชพืชแทน เพื่อใช้เป็นปุ๋ยให้คลุมดิน ส่วนการไม่ไถพรวนดิน ก็เป็นการไม่พลิกหน้าดินให้เมล็ดหญ้าใต้ดินขึ้นมางอกใหม่ได้อีก ทั้งนี้ได้ทดลองทำแปลงเล็กๆ ก็นับว่าได้ผลดี จึงมีเป้าหมายที่จะทดลองทำการเกษตรในรูปแบบเกษตรธรรมชาติ เพื่อให้เกิดเป็นองค์ความรู้ในการนำไปปฏิบัติแปลงที่ใหญ่กว่าต่อไป
 
 
 
 
ที่ดินที่เข้าร่วมโครงการ ด้านหน้าจะติดถนนดำ เป็นถนนสาย อ.วัดสิงห์ - อ.หนองมะโมง ประตูทางเข้าและรั่ว ยังไม่ได้ทำ ขโมยเยอะพอสมควร เลี้ยงปลาไว้ในสระโดนขโมยตลอด ดังนั้นประตูและรั้วจึงเป็นสิ่งจำเป็นที่ต้องทำเพิ่มครับ
 
 
 
 
เลี้ยวเข้ามาในบริเวณที่ จะเห็นศาลพระภูมิ สีน้ำตาลประดับลายทอง คล้ายๆ ทำจากไม้สัก เป็นสิ่งก่อสร้างอันแรกที่สร้างไว้ในบริเวณที่ผืนนี้ครับ
 
 
 
 
พื้นที่ส่วนนี้เป็นพื้นที่สำหรับทำแปลงเพาะกล้านาโยน สามารถปลูกข้าวได้ด้วย ตรงส่วนที่ไกลๆ ในภาพจะเป็นพื้นที่ปลูกแปลงผัก แต่บางทีอาจจะสลับกันได้ในทางปฏิบัติ พื้นที่ส่วนหนึ่งด้านซ้ายของรูปที่ติดถนน จะใช้เป็นพื้นที่สร้างร้านค้าเพื่อขายพืชผัก ผลิตภัณฑ์ต่างๆ จากไร่พอใจ
 
 
 
 
ซูมเข้าไปไกล้ๆ ด้านขวาของภาพ ฝังเสาปูนไว้แล้ว เพื่อจะสร้างเป็นโรงเรือนเพาะกล้าข้าว ยึดแนวทางตามเศรษฐกิจพอเพียง จึงปลูกสร้างเอง ค่อยๆ ทำ อาจจะเสร็จช้าไปนิด แต่ก็ไม่ทำให้ต้องก่อหนี้สินเพิ่มขึ้น
 
 
 
 
พื้นที่บริเวณด้านบนนี้ เดิมเป็นพื้นที่นาต่ำกว่าถนนมาก ขุดสระภายในที่มาถมได้ร่วม 10 ปีกว่าปีมาแล้ว เนื่องจากใต้ดินเป็นดินดาน เป็นหินลูกรัง 10 ปีผ่านไป ยังปลูกอะไรไม่ขึ้นเลย นับว่าเป็นสิ่งที่ท้าทายมาก จึงได้เดินทางเติมเต็มความรู้ทั่วประเทศ จากปราชญ์หลายๆ ท่าน เพื่อนำองค์ความรู้มาต่อสู้กับแผ่นดินผืนนี้
 
 
 
 
มุมมองจากสุดที่อีกด้านหนึ่งเข้าไปครับ ก็ยังให้ความรู้สึกแห้งแล้ง ไม่น่าอยู่ บริเวณสุดที่นี้ก็ได้กันพื้นที่ไว้สำหรับสร้างเป็นโรงหมักและเก็บปุ๋ยอินทรีย์ด้วย การบ้านอีกเยอะครับ ต้องทำให้ได้....สู้..สู้..สู้
 
 
 
 
กลับมาอีกด้านของที่ เป็นบริเวณที่จะทำบ้านพักชั่วคราว อันนี้ก็ตั้งเสาเหล็กไว้ ค่อยๆ ทำครับ ทำตามแรงและเงินที่เรามีอยู่ ไม่ได้จ้างหรือเหมาให้เขาทำครับ
 
 
 
 
เดินตรงลงไปข้างล่าง จะเป็นต้นมะม่วงใหญ่ อายุน่าจะร่วม 100 ปี เล็งว่าจะทำเป็นบ้านต้นไม้น่าจะได้บรรยากาศ ข้างล่างเป็นกระต็อบ ยังปลูกไม่เสร็จ หลังเล็กๆ ติดตรงที่อยากได้กระต็อบที่เป็นธรรมชาติ ใช้วัสดุในพื้นที่ แต่ทนนาน และมีรูปแบบของตัวเอง ก็เลยนานไปนิด แต่คิดว่าน่าจะเสร็จก่อนเพื่อนครับ
 
 
 
 
พื้นที่ด้านขวาของภาพ เป็นที่ว่างแปลงเล็กๆ ตั้งใจเอาไว้ปลูก ถั่วเขียว ถั่วเหลือง ข้าวโพด พริก อะไรพวกนี้ครับ แต่ก็มีการบ้านแน่นอน เพราะดินไม่ดีเลย สังเกตุจากต้นกล้วยที่ปลูกไว้ไม่งามเลยครับ
 
 
 
 
กระต็อบที่ยังสร้างไม่เสร็จ คาดว่าน่าจะเสร็จภายในอาทิตย์หน้านี้ครับ เสร็จแล้วก็คงเป็นที่อยู่ไปก่อน โชคดีที่ขอไฟฟ้าเข้าที่ไว้แล้วครับ
 
 
 
 
ดินที่นี่ไม่ค่อยดี ขนาดต้นกล้วยยังไม่งามเลยครับ คงต้องสู้กันหลายยก ร่องน้ำหลังต้นกล้วยสำหรับเลี้ยงปลาสลิดก็รกพอสมควร
 
 
 
 
บริเวณร่องน้ำที่จะเลี้ยงปลาสลิด ยังรกไปด้วยหญ้า แต่ก็เป็นสภาพแวดล้อมที่ปลาสลิดชอบ คงต้องล้อมด้วยมุ้งเขียวอีกทีครับ เพื่อป้องกันงูและตัวอะไรมาขโมยกินปลาครับ
 
 
 
 
พื้นที่สำหรับปลูกข้าว 4 แปลงเล็กๆ มีหญ้าขึ้นอยู่ไม่มาก เพราะได้คอยตัดหญ้าไว้ แต่ดินก็ไม่ค่อยอุดมสมบูรณ์ และที่สำคัญต้องการทำนาแบบธรรมชาติ ไม่ไถพรวนดิน อันนี้คงต้องติดตามดูกันต่อไปครับ
 
 
 
 
จากตำแหน่งแปลงนาเดินตรงเข้ามาจะพบกับต้นฉำฉาต้นใหญ่ หมายตาว่าจะสร้างเป็นบ้านต้นไม้ และด้านล่างริมสระจะสร้างเป็นเรือนแพลอยน้ำปลูกผักกินได้อีกจุดครับ
 
 
 
 
ข้างต้นฉำฉาใหญ่จะเป็นสระน้ำขนาด 2 ไร่ ปีนี้ฝนทิ้งช่วง น้ำไม่พอใช้ แต่ก็ยังพอมีน้ำเหลืออยู่ ตรงปลายสระส่วนนี้จะทดลองปลูกข้าวในกระถางลอยน้ำดูครับ เพื่อเอาไว้ใช้เป็นพันธุ์ข้าว เพราะควบคุมเรื่องข้าวปนได้ง่ายกว่า
 
 
 
 
อีกฟากของต้นฉำฉา ซึ่งอยู่ตรงข้ามสระน้ำขนาด 2 ไร่ จะเป็นสระน้ำขนาด 1 ไร่ สระลูกนี้จะแบ่งส่วนหนึ่งเป็นที่เลี้ยงเป็ด และเพาะเลี้ยงแหนแดง คงต้องใช้มุ้งฟ้ามาล้อมแยกสัดส่วนครับ
 
 
 
รวมรูปพื้นที่ไร่พอใจ ที่เข้าร่วมโครงการ คนกล้าคืนถิ่น
 
 
 
 
 
 
 
ความสำคัญของเกษตรอินทรีย์
 
แนวความคิด ของการทำเกษตรอินทรีย์ แบบยั่งยืน
แล้วคำว่า "เกษตรอินทรีย์" มันคือการเกษตรอะไรกันแน่....
ความสำคัญเกี่ยวกับ การทำเกษตรที่เป็นเกษตรอินทรีย์ 100 เปอร์เซนต์
     
           
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
พันธมิตรโฆษณา
 

 

 
 
 
 
     
 
 
    ติดต่อเวบมาสเตอร์ :    
 
 
             
สงวนลิขสิทธิ์โดย.....
ไร่พอใจ เกษตรอินทรีย์
 
ที่อยู่บริษัท.....
121 หมู่ 6 ต.กุดจอก อ.หนองมะโมง
จ.ชัยนาท 10270
 
เบอร์โทรศัพท์.....
093-0367910, 02-9933305
 
เบอร์แฟกซ์์.....
02-9933306    Line ID : raiporjai
 
 
 
อีเมล์ติดต่อ.....
sales@raiporjai.com
 
 
 
 
หัวข้อเมนูหลักในเวบไซต์.....
กลับหน้าหลัก
เกี่ยวกับไร่พอใจ
สินค้าจากไร่พอใจ
เรื่องราวที่ไร่พอใจ
มุมสมาชิก
ติดต่อเวบไซต์
 
 
เมนูอื่นๆ ในเวบไซต์.....
สมัครสมาชิก
สมาชิกล็อกอิน
แจ้งชำระเงินค่าสินค้า
สมาชิกลืมรหัสผ่าน